รู้จักตัวชี้วัด CPM, CPC, CPA คืออะไร ต่างกันอย่างไรบ้าง?

CPM CPC CPA เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการทำโฆษณาออนไลน์ แต่ละแบบมีวิธีคิดค่าใช้จ่ายและวัตถุประสงค์ต่างกัน ช่วยให้ธุรกิจวางกลยุทธ์โฆษณาได้แม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการมองเห็น, การกระตุ้นการคลิก หรือมุ่งเน้นผลลัพธ์จากการกระทำ วันนี้ Wizdom สรุปความแตกต่างและวิธีเลือกใช้ให้แล้ว!
รู้จักตัวชี้วัด CPM CPC CPA คืออะไร?
CPM, CPC, CPA คือ 3 ตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยประเมินประสิทธิภาพการทำโฆษณาออนไลน์ มาดูกันว่าแต่ละตัวคืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
CPM คืออะไร?
CPM หรือ Cost Per Mille คือราคาที่จ่ายต่อการแสดงผล 1,000 ครั้งในโฆษณาของคุณ เหมาะสำหรับแคมเปญที่มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์หรือเพิ่มการรับรู้ในกลุ่มผู้ชมที่กว้าง โดยมักใช้ในแคมเปญที่เน้นการเพิ่มการมองเห็น (Impression) มากกว่าการคลิกหรือการกระทำอื่น ๆ
ตัวอย่างการใช้งาน CPM
หากคุณจ่ายเงิน 100 บาทสำหรับการแสดงผลโฆษณาของคุณ 1,000 ครั้ง คุณจะมี CPM อยู่ที่ 100 บาท
สูตรการคำนวณ
CPM = (จำนวนเงินที่ใช้จ่าย) x 1,000 / จำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงผล
ค่าใช้จ่ายในแคมเปญนี้คือ 100 บาท, หมายความว่าคุณจ่าย 100 บาทเพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงผล 1,000 ครั้ง (Impressions)
CPM เหมาะสำหรับแคมเปญแบบไหน
CPC คืออะไร?
CPC หรือ Cost Per Click คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการคำนวณค่าใช้จ่ายเมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณาของคุณในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น โฆษณา Google Ads หรือ Facebook Ads เหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม เช่น การคลิกเข้าชมเว็บไซต์หรือซื้อสินค้า
ตัวอย่างการใช้งาน CPC
ตัวอย่างเช่น หากคุณจ่ายเงิน 10 บาทต่อการคลิก 1 ครั้ง โดยมีการคลิกทั้งหมด 100 ครั้ง คุณจะต้องจ่ายทั้งหมด 1,000 บาท
สูตรคำนวณค่าใช้จ่ายแบบ CPC
ดังนั้นในแคมเปญนี้คุณจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายรวมเป็น 1,000 บาท
CPC เหมาะสำหรับแคมเปญแบบไหน
CPA คืออะไร?
CPA หรือ Cost Per Action คือ คือค่าใช้จ่ายเมื่อผู้ใช้ทำกิจกรรมเฉพาะ เช่น สมัครสมาชิก, ซื้อสินค้า หรือดาวน์โหลดแอป คำนวณจากจำนวนการกระทำที่เกิดจากโฆษณา ช่วยให้ธุรกิจวัดผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างการใช้งาน CPA
ตัวอย่างเช่น หากคุณจ่ายเงิน 50 บาทเมื่อมีผู้ใช้ซื้อสินค้าหรือทำการสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ของคุณ โดยในแคมเปญนี้มีผู้กระทำการ 100 คน (ซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิก)
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องจ่ายสำหรับการกระทำ (Conversion) ทั้งหมดคือ 5,000 บาท
สูตรคำนวณค่าใช้จ่ายแบบ CPA
ตัวอย่างเช่น หากคุณจ่ายเงินทั้งหมด 5,000 บาทและได้รับ 100 การกระทำ (Conversion) ค่า CPA จะเท่ากับ
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายต่อการกระทำ (Conversion) คือ 50 บาท
CPA เหมาะสำหรับแคมเปญแบบไหน

เปรียบเทียบ CPM, CPC และ CPA ต่างกันอย่างไร?
การเลือกใช้งาน CPM, CPC และ CPA ให้เหมาะสม
การเลือกใช้ตัวชี้วัด CPM, CPC หรือ CPA ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแคมเปญที่คุณกำลังทำ หากคุณต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้เลือกใช้ CPM หากคุณต้องการให้ผู้ใช้คลิกเข้าเว็บไซต์ให้เลือกใช้ CPC และหากคุณต้องการให้ผู้ใช้ทำการกระทำเฉพาะเช่น การซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิกให้เลือกใช้ CPA

เทคนิคการใช้ CPM, CPC และ CPA ในแคมเปญ
การใช้ CPM, CPC และ CPA ในแคมเปญสามารถช่วยให้การตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามเป้าหมายที่ต้องการ ต่อไปนี้คือเทคนิคในการใช้แต่ละตัวชี้วัดให้ได้ผลดีในแคมเปญของคุณ
เทคนิคการใช้ CPM (Cost Per Mille)
CPM เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้แบรนด์และการมองเห็นในกลุ่มผู้ชมที่กว้าง โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมายคือการเพิ่มการเข้าถึง (reach) หรือการแสดงผลโฆษณา เทคนิคในการใช้ CPM ได้แก่
เทคนิคการใช้ CPC (Cost Per Click)
CPC เหมาะสำหรับแคมเปญที่มุ่งเน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับโฆษณาโดยการคลิกไปยังเว็บไซต์หรือเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การซื้อสินค้า ดังนั้นเทคนิคในการใช้ CPC ได้แก่
เทคนิคการใช้ CPA (Cost Per Action)
CPA เหมาะสำหรับแคมเปญที่มุ่งเน้นการกระทำเฉพาะ เช่น การซื้อสินค้า, การสมัครสมาชิก หรือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เทคนิคการใช้ CPA ได้แก่
บทสรุป
CPM CPC CPA เป็นตัวชี้วัดยอดนิยมที่มีการใช้งานและจุดประสงค์ต่างกัน การเลือกตัวชี้วัดที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
การเลือกใช้ CPM, CPC และ CPA ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ที่ Wizdom เรารับยิงแอดคลินิกและทำเว็บไซต์เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นและยอดขาย ต้องการปรึกษา ทักหาเราได้เลย!
ปรึกษา Wizdom
สอบถามเพิ่มเติม : hello@wizdom.co.th
โทรติดต่อ : 062-353-5197
โทรติดต่อ : 062-353-5197

